top of page
รูปภาพนักเขียนJanine Yasovant

Ajarn Tim : Wat Chang Hai Pattani อาจารย์ทิมวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี

อัปเดตเมื่อ 3 ม.ค. 2563


Wat Changhai Pattani Province





Janine Yasovant MPA. : Writer


In the year I took an entrance exam to Prince of Songkla University, Ajarn Tim, the famous former abbot of Wat Chang Hai temple, passed away long time ago but his fame and virtues were still be mentioned especially the making of the amulets and coins for Luang Phu Tuad Yeap Nam Talae Jued, one of the noble monks whom many Thai people revered.


ในปีที่ดิฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาจารย์ทิมเจ้าอาวาสวัดช้างให้ได้มรณะภาพไปนานแล้ว แต่ชื่อเสียงความดีงามยังมีคนกล่าวถึง ในเรื่องของการสร้างหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

Ajarn Tim: Former abbot of Wat Chang Hai temple พระอาจารย์ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้


I have bronze statues of Ajarn Tim and Luang Phor Dam, the former abbot of Mujalintawapiwihan whom I wrote about last time. The lap size is 5 inches and the height is 8 inches. The statue was made in May B.E. 2518 (1975 A.D.) which was 2 years before the bronze statue of Luang Phor Dam.


ดิฉันมีรูปปั้นสำริดของอาจารย์ทิมเมื่อได้มีโอกาสไปทำบุญ ได้มาพร้อมกับรูปปั้นสำริด ของหลวงพ่อดำ วัดมุจลินทวาปีวิหารที่ได้เขียนถึงท่านไปครั้งก่อน ขนาด 5 x 8 นิ้ว บันทึกว่าสร้างเมื่อ พฤษภาคม 2518 ซึ่งสร้างก่อนรูปปั้นหลวงพ่อดำ ประมาณ 2 ปี



เข็มกลัดเนคไท ที่เเจกในงานพระราชทานเพลิงศพ 24 สิงหาคม2518 .Tie Bar as a souvenir from A.Tim funeral

Phra Kru Wisaisophon (Tim Thammatharo)


Date of Birth: 21 August B.E. 2455 (1912 A.D.)

Date of Passing: 30 November B.E. 2512 (1969 A.D.)

Age: 57 Date of novice ordination: B.E.2473 (1930 A.D.) Date of monk ordination: 7 June B.E. 2476 (1933 A.D.) Total years in ordination: 37 years

being the resident monk of: Chang Hai Temple Area: Pattani Province Thailand Last position: Abbot of Chang Hai Temple


พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมมฺธโร)


เกิดเมื่อวันที่: 21 สิงหาคม พ.ศ. 2455

มรณภาพเมื่อวันที่: 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512

อายุ 57

วันบรรพชา: พ.ศ. 2473

วันอุปสมบท: มิถุนายน พ.ศ. 2476

จำนวนรวมพรรษา: 37 พรรษา

วัดที่จำพรรษา: วัดช้างให้

ท้องที่: จังหวัดปัตตานี

ตำแหน่งทางคณะสงฆ์: เจ้าอาวาสวัดช้างให้


Phra Kru Wisaisophon (Tim Thammatharo) was born on 21 August B.E. 2455 (1912 A.D.) which was in the reign of King Mongkutklaochaoyuhua (Rama VI). He was the former abbot of Chang Hai temple, Khok Pho District, Pattani Province. His given name was Tim Phrompradu and he was the second son of Mr. Inthong and Mrs. Noom. His parents had 6 children including Tim. He was ordained to be a novice when he was 18 years old. After a short while, he left the novicehood to be a layman to help his parents and then he was ordained again when he was 20 years ago at Na Pradu temple in 7 June B.E. 2476 (1933 A.D.) Phra Kru Phiboonsamanawat from Mujalintawapiwihan Temple was his preceptor. The abbot Phut Tissaro was the first announcing teacher and the abbot Kaew was the second announcing teacher. After ordination, Tim received the monk's name Thammatharo.

พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธัมมธโร) ท่านเกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2455 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

ท่านมีนามเดิมว่า ทิม พรหมประดู่ เป็นบุตรของนายอินทอง และ นางนุ่ม มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อมีอายุได้ 18 ปี แต่ไม่นานก็ลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำงาน อุปสมบทเมื่อมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ณ วัดนาประดู่ ในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2476 โดยมีพระครูพิบูลย์สมณวัตร วัดมุจลินทวาปีวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการพุฒ ติสสโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการแก้ว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธมมฺธโร


In B.E. 2497 (1954 A.D.) Phra Ajarn Tim and Mr. Anant Kananurak met at Chang Hai Temple. This was the beginning of amulets and coins of Luang Pho Tuad for the first time. From According to the vision of Ajarn Tim, he saw an old monk sitting cross-legged on the lotus and had a black Buddha statue. from then on, this type of amulets are very well known up to the present. Ajarn Tim participated in making for various series of amulets and coins in the name of Chang Hai temples and other temples starting from B.E. 2497 (1954 A.D.) to before his passing. Most of them are still well known and sought by amulets collectors.

เมื่อปี พ.ศ. 2497 พระอาจารย์ทิม และนายอนันต์ คณานุรักษ์ ได้มีโอกาสพบกัน ณ วัดช้างให้ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดพระเครื่อง หลวงพ่อทวดขึ้นเป็นครั้งแรก ตามภาพนิมิตเป็นรูปพระภิกษุชรานั่งขัดสมาธิบนดอกบัว มีองค์พระดำ นับแต่นั้นมาพระพิมพ์นี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายสืบมาจนถึงปัจจุบัน วัตถุมงคลที่ พระอาจารย์ทิมมีส่วนร่วมสร้างทั้งในนามวัดช้างให้และวัดอื่นๆ นับจากปี พ.ศ. 2497 ตราบจนกระทั่งมรณภาพมีหลายต่อหลายรุ่น ล้วนแต่เป็นที่นิยมสะสมกันอย่างกว้างขวาง


เหรียญกงจักร กะไหล่ทอง :อาจารย์ทิม ปี2519

เหรียญ กงจักร ด้านหลังเป็นภาพ วัดช้างให้ Disc -coin A. TIM

Dew- drop coin Arjarn Tim Wat ChangHai BE. 2520






Burmese Ruby :

Khun Prapasri Tularaksa :2523

Khun Prapasri Tularaksa : My wedding day 25 Apr. 2523


Khun Prapasri Tularaksa : She sat behind me , you can see how she loved me ..

ดิฉันทราบจากบันทึก ของท่านกับการบริจากทับทิม ขนาดใหญ่มาก บนยอดเจดีย์ วัดหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ โดยคุณประภาศรี ตุลารักษ์ สุภาพสตรี ที่ดิฉันอาศัยอยู่ด้วย 3 ปีเศษ ขณะเรียน ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และขอนำมาเผยแพร่ ในบันทึกของปี2562 นี้


Here is the diary of Prapasri Tularaksa the niece of Sanguan Tularaksa the former Thai ambassador in Pei Jing, China.


บันทึกของคุณประภาศรี ตุลารักษ์ ผู้เป็นหลานของคุณสงวน ตุลารักษ์ อดีตเอกอัครราชทูตไิทยในกรุงปักกิ่งประเทศจีน


สงวน ตุลารักษ์ (18 มิถุนายน พ.ศ. 2445 — 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2538) เป็นนักการเมืองไทยและสมาชิกผู้นำของเสรีไทย


ในปี พ.ศ. 2489 ได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐจีน และปฏิเสธที่จะเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490 โดยประกาศว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายสงวนใช้เวลาอีกสิบปีถัดมาอาศัยอยู่ในจีน จึงเดินทางกลับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2500 และถูกสั่งจำคุกโดยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในปี พ.ศ. 2508


Sanguan Tularaksa June 18, 1902 - May 15, 1995) was a Thai politician and a leading member of the Seri Thai.


In 1946 he was appointed ambassador to the Republic of China. He refused to return to Thailand following the coup d'état of 1947, declaring that the new constitution was illegitimate. Sanguan spent the next decade living in China. He returned to Thailand in 1957 and was jailed by the government of Field Marshal Sarit Thanarat. He was released in 1965.

( E. Bruce Reynolds. Thailand's Secret War: The Free Thai, OSS, and SOE. Cambridge University Press. pp. 122–3. ISBN 0521836018. )


เป็นบันทึกที่วัดได้ทำไว้ ....เลยถือโอกาสแปลให้วัดเมื่อปี พ.ศ.2554 ( 2011AD. )


ดิฉันเคยทราบมาก่อน และได้ถามท่านเรื่องนี้ ท่านก็ได้กล่าวให้ฟังเพียงเล็กน้อย คือความตั้งใจที่จะ ถวายเป็นพระราชกุศล ความตั้งใจเดิมของท่านอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสวัดช้างให้จากทองคำที่มีผู้บริจาคมากน้อยแค่ไหน ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดจะขอดูด้วย เป็นแต่ท่านอาจารย์ทิมพูดให้ฟังว่ามีทองคำที่มีผู้บริจาครวมไว้สร้างสำเภาทองคำ สำเภาเงินและฉัตรทองคำ เพื่อนำไปประดิษฐานไว้บนยอด พระเจดีย์ ส่วนสำเภาเงิน สำเภาทองจะสร้างไว้ลอยในขันน้ำมันคู่ใหญ่ของวัดช้างให้ เผอิญท่านมรณภาพก่อนที่จะได้สร้างสิ่งที่ท่านตั้งใจไว้


ต่อมาคณะกรรมการได้จัดสร้างฉัตรทองคำตามประโยชน์ของท่านอาจารย์ทิม ก่อนสร้างดิฉันได้ไปเขียนสั่งที่วัดไว้ว่า ดิฉันจะบริจาคทับทิมเม็ดใหญ่ น้ำหนัก ๗๑ การัตครึ่งเพื่อประทับไว้บนยอดสูงสุดของฉัตร ชั้นที่ ๙ แต่ทางคณะกรรมการมิได้บอกให้ช่างทำฉัตรทราบ คงไม่ได้เปิดสมุดบันทึกการบริจาคทับทิมของดิฉัน ซึ่งจดไว้ที่กุฏิท่านอาจารย์ทิม ดิฉันมาทราบก็ต่อเมื่อช่างได้ทำฉัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว


จึงได้ต่อว่าคณะกรรมการ ตอนที่จะสร้างทำไมไม่บอกให้รู้ หนังสือเขียนเรื่องการบริจาคทับทิมก็เขียนไว้ให้อยู่ คณะกรรมการบอกว่าเมื่อสร้างแล้วคุณประภาศรีมีปัญญาจะนำทับทิมที่บริจาคไปประดับไว้ที่ส่วนไหนของฉัตรก็สุดแต่จะทำเถอะ ดิฉันจึงรีบไปที่ร้านทองซึ่งรับทำฉัตรนี้


บอกช่างถึงเจตนารมณ์ของดิฉัน เพราะตั้งใจจะทำบุญด้วยทับทิมเม็ดนี้ให้ได้ ร้านทองลิ่มเซี้ยบอกว่านำทับทิมมาเถอะจะติดให้ ดิฉันก็เอาเงินไปซื้อทองคำหนัก ๔ บาท๕๐ สตางค์ ให้นายมีเคี่ยม ผู้เจริญทรัพย์ร้านทองในตลาดทำให้และให้ นายจิราพันธุ์ เป็นผู้เขียนแบบโดยเอาทับทิมเม็ดใหญ่ ๗๑ การัตครึ่งติดไว้ตรงกลาง


ส่วนเม็ดเล็กๆ วางรายรอบทับทิมเม็ดใหญ่อีกทีหนึ่ง รวมทับทิมที่ใช้ประดับแล้วมีน้ำหนัก ๑๐๗ การัตครึ่ง ระหว่างที่ทำยังไม่ไม่แล้วเสร็จ ดิฉันไปทรงหลวงปู่ทวดและบอกท่านว่าจะนำแผ่นทองคำประดับทับทิมไปประดับบนฉัตรทองคำชั้นที่เก้าถวายให้หลวงปู่ทวด เพราะตั้งใจจะให้ได้อยู่บนชั้นยอดสุด หลวงปู่ท่านบอกว่าบุญของลูกยังไม่ถึงชั้นเก้าได้เพียงชั้นเจ็ดเท่านั้น พอช่างทำเสร็จดิฉันก็รับเอาไป ตั้งใจจะไปติดชั้นเก้าให้ได้ พอนำไปทาบที่ชั้นเก้าติดไม่ได้อย่างที่หลวงปู่บอกไว้ว่าบุญมีได้เพียงชั้นเจ็ดเท่านั้น พอนำไปทาบชั้นเจ็ดติดได้พอดีเพราะแผ่นทองที่ทำมาใหญ่มากจนติดชั้นที่เก้าไม่ได้ สกรูขันติดลงมาจากชั้นที่เก้าลงมาที่ชั้นเจ็ดพอดี ขันสกรูได้สี่ตัวตรงดังที่หลวงปู่บอกไว้ บุญยังไม่ถึงชั้นเก้าต้องเพียรทำต่อไป เมื่อทำไปติดกับฉัตรทองคำได้สำเร็จดิฉันก็พอใจแล้ว เพราะตั้งใจจริงๆ


และมีผู้ร่วมบุญหลายราย อนึ่ง คุณประภาศรี ตุลารักษ์ ได้ซื้อทับทิมเม็ดเล็กๆ เพิ่มอีก ๙๕ เม็ด หนัก ๑๘ การัต วัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 94180



Thank you : Sea Slow

About Prapasri Tularaksa : A Tycoon who I lived with her more than 3 years ,before I got Married


Khun Prapasri Tularaksa 1979 I spent more than 3 years (1977-1979 ) with her , a three -story house ..au bord de la Pattani rivière..


I lived in her house until I graduated and moved out when I married. She said the man who chose me was selected by the King and recommended me to quit from the university. At that time I was only 19 and the judge cannot stay longer than 2 years ,he had to move in many provinces. She was afraid that the distance can make any thing could happen. Luckily I insisted to finish my education. He had to extend and wait for me..,we cannot forecast the future. Here was something about my land lady whom I had stayed with her , she has the business with jewelry , and fishery.. She was also a terrific cook…Thai authentic food Ho Mok pla.


Thai dessert ..colors from flowers ..all kinds of them..people came to order every day.. People in this house wake up very early..healthy and very happy..She is kind and generous , her birthday is 14 February ..Yes, it ’s a Valentine’s Day !!! She might be 90..this year..!!


I have known some information from the note she wrote about her donation of a big ruby to be placed at the top of pagoda in Wat Chang Hai temple in Pattani province. I went to Wat ChangHai ,The monk gave me a leaflet and I read about a ruby She said that she wanted to do this for contribution to the charity started by the king


ere is what she wrote in the book called history of Wat Chang Hai temple It was intention of the abbot Ajarn Tim from Wat Chang Hai temple. I did not wish to see and did not interest to see the donated gold. The abbot Ajarn Tim told me that the donated gold and silver will be used to make golden ship, silver ship and golden nine-tiered umbrella called Chattra. Golden and silver ships will be placed at two large bowls of Wat Chang Hai temple while the golden nine-tiered umbrella will be sent at the top of the pagoda. But abbot Ajarn Tim passed away before his intention became true. Later,


the temple committee continued to complete his wish. Before the making of nine-tiered umbrella, I intended to give 71.5 Karat of large ruby to the top level of the umbrella but the commitee did not inform Chattra maker about my wish because they did not open the donation note of abbot Tim which was in his parsonage. This note has information about my ruby donation and my intention to use this ruby to adore the Chattra.



I finally knew about this problem when the golden Chattra was finished already. I talked to the committee and asked why they did not tell me when they began to create the Chattra. The committee replied that I was able to attach the ruby anywhere I want in this Chattra. Knowing this, I rushed to Lim Sia goldsmith where the Chatta was made and told about my intention to use this ruby for adornment and making merit. Lim Sia goldsmith agree to do as I asked of I brought the ruby. I also bought more gold for 4 Baht 50 Satang (Gold measurement) to Mr. Mekhiam Phoocharoensap the other goldsmith at the market and Mr. Jiraphan was the designer who put the big ruby 71.5 Karat at the center and put smaller rubies around it.


All rubies weighted 107.5 Karat (Jewelry measurement) during this time when the ruby part is still not donem I went to see the spirit channeler to contact with Luang Phoo tuad and consult him about my intention. I decided to attach a gold plate with rubies at the top of the Chattra (9th level). He said that I can attach it at 7th level because my merit was not high enough. Interestingly, after the golden plate with rubies was done,


I attempted to attach it at the 9th level but failed because the plate was too large for the 9th level. It was true as Luang Phoo Tuad told me that my merit was only at the 7th level. The plate with rubies fit the 7th level perfectly. the screw from the 9th level went down to the 7th level and 4 of the screw can penetrate the gold plate and the Chattra. I knew my merit was not high enough so I decide to continue doing good. I completely satisfied with what I had and my intention was fulfilled because I really intended to place rubies at the Chattra. There were so many people who were making this merit. Prapasri Tularak also bought 95 pieces of rubies which weight about 18 Karat Author: Ms. Prapasri Tularak. year of publishing was unidentified From Book History of Wat Chang Hai temple.


Although the story happen many decades ago, this was unforgettable experiences that I had to record and translated into English. Back then I stayed at the house of Prapasri Tularak in Pattani for several years. I was really impressed with her graceful daily life and her chanting of Shinnabanshara scroll and meditation as well as her professionalism in cooking food such as Ho Mok Pla (steamed fish with curry paste) and Thai desserts and snacks such as Kanhom Chan, Kanom Thong Aek, Fried fish dumplings. Prapasri said learning a recipe from her cost 100 Baht each but she prepared all the equipment I also invited some of my friends to learn together. She said the teaching could not be free because these should be well remembered and can be used to earn money in the future and teacher must have enough proficiency. Then my friends and I had a small party.


เป็นประสบการณ์ชีวิต ที่ดิฉัน ต้องเก็บบันทึก และแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ แม้เวลาจะห่างไกลหลายสิบปี ดิฉันอยู่บ้านของท่านที่ปัตตานี มาหลายปี ประทับใจ กับ ชีวิตประจำวัน ที่งดงามกับการสวดชินบัญชร และการนั่งสมาธิ การทำ ห่อหมกปลา และขนมไทย ขนมชั้น ทองเอก ปั้นขลิบไส้ปลา ที่ดิฉันเคยเรียนด้วย ท่านคิดวิชาละ 100 บาทพร้อมกับซี้ออุปกรณ์ เตรียมให้หมด :ซึ่งดิฉันก็ ชวนเพื่อนๆมาเรียน เพิ่มอีกหลายคน ท่านบอกว่าการสอนต้องคิดเงิน เพราะเป็นวิชา จะได้จดจำ ไปใช้ในวันข้างหน้า และได้มาโดยครูสอน ที่มีความถนัดจริงๆ เมื่อทำเสร็จก็เรียกเพื่อนๆมาปาร์ตี้กัน


At that time, people ordered her food to the party. During King Bhumibhol Adulyadej (Rama IX) and Queen Sirikit's visit to their palace in Narathiwas Province, food from Prapasri Tularak was transported from Pattani to Narathiwas. Her attire color to have an audience with the royal family was Olive green. Her name and position of Or Sor Ror Dor. (อสรด. = A volunteer to protect country) were sewn. This was an exciting for me. I was very impressed to know that she was born on Valentine's day. She was already 60 years old but she still tailored her dress to be used to came to my wedding day in the evening. Photos shown here were taken from the morning ceremony of my wedding day. She wore pink silk dress. Her jewelry sets were emerald necklace surround by diamonds. This was a very well match with emeralds bracelets with diamonds earrings. In my view, Prapasri Tularak was really the great woman.


ทุกวันจะมีคนสั่งอาหารจากท่าน ไปงานเลี้ยง ต่างๆ โดยเฉพาะ เมื่อมี การเสด็จ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 และพระราชินี อาหารจาก คุณประภาศรี ตุลารักษ์ ก็จะส่งจาก จังหวัดปัตตานี ไปยังวังที่นราธิวาส และชุดที่ท่านสวม เข้าในวัง จะเป็นชุดสี เขียว ขี้ม้า ที่ปักชื่อเเละเรียก ว่าเป็นชุด อสรด. ที่แปลตรงตัว ว่าชุดอาสาสมัคร รักษาดินแดน ...ช่างเป็นกิจวัตรประจำวัน ที่น่า ตื่นตาตื่นใจ สำหรับดิฉัน จริงๆ และ ที่ดิฉัน ทราบและประทับใจ คือท่านบอกดิฉันว่า ท่านเกิดวันวาเลนไทน์ ...ขณะที่อยู่เวลานั้น ท่านอายุ 60 ปีเเล้ว แต่ยังสามารถ ตัดชุด ใส่เอง ในงาน แต่งงานของดิฉัน ในเวลาค่ำ และรูปถ่ายที่ดิฉันนำมา ประกอบ ช่วงเช้า เป็นชุดผ้าไหมสีชมพู เครื่อเพชรท่านเป็นชุดมรกตล้อมเพชรเส้นยาว เข้ากันกับกำไลมรกตล้อมเพชร และตุ้มหู ...ช่างเป็นสุภาพสตรี ที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก จริงๆของดิฉันมากทีเดียว


The dessert recipe I learned for free was Kanhom Tian (Stuff dough Pyramid) that she sold during the Chinese new year and other Chinese important days. We have to prepare 3 big basin and wrapped with banana leaves before steaming. We had so little time to sleep. Prapasri Tularak was very good in household chores and she was single. I also knew that she even had a fishing boat. Once I asked her about all her assets, she humbly told me that her assets were more than 50 Million Thai Baht.


ที่แต่ขนมที่ดิฉันเรียนฟรีคือ ขนมเทียน ซึ่งยามเทศกาลท่านทำขาย ประมาณ3 กาละมังใหญ่ และ ช่วยทำและห่อด้วยใบตองก่อนจะไปนึ่ง เเละเทศกาลนั้นเราก็แทบไม่ได้นอนกันเลย ท่านเป็นงานบ้านงานเรือนมาก แต่ท่านครองตัวโสด และเมื่อดิฉันทราบว่าท่านมีเรือประมง และดิฉันถามถึงทรัพย์สินของท่าน ที่มี ในเวลานั้น ท่านตอบอย่าง ถ่อมตนมากว่า 50 ล้านบาทเห็นจะได้..



Read My diary ..https://svantee.maggang.com/my-perfect-lifein-deep-south-thailand





ดู 217 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


OUR TEAM

I'm a paragraph. Click here to add your own text and edit me. It’s easy. Just click “Edit Text” or double click me to add your own content and make changes to the font. 

Read More

bottom of page